Tank, Vessel ,Sphereเพื่อนๆ จะได้เจอ Eng Word คำดังต่อไปนี้ Fire tube boiler, shell boiler ,Water tube boiler ,external furnace ,drum , solid fuel firing , internal furnace “Scotch Boiler“ ,external ,stack ,compact design ,package unit ,fire tube boiler , boiler feed water pump, fans burners and controller , package unit ,superheat steam ,Water tube boiler,Straight tube boilers,Bent tube boilers อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า หม้อไอน้ำสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้ครับ 1 Fire tube boiler (shell boiler) จะมีขนาดเล็กกว่า Water tube boiler ประเภทนี้ มีรูปร่างลักษณะเป็นทรงกระบอกโดยที่ไฟ และก๊าซร้อนจะวิ่งภายในท่อเล็กๆจำนวนมากที่ล้อมรอบไปด้วยน้ำ โดยจะเป็นการให้ความร้อนแก่น้ำที่อยู่รอบๆท่อครับ หม้อไอน้ำประเภทนี้สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทตามตำแหน่งเตาเผาเชื้อเพลิง คือ - external furnace การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงจะเกิดขึ้นที่เตาอิฐภายนอก drum ดังนั้นตัวเตาจึงสะดวกสามารถเพิ่มอุปกรณ์เสริม ได้ เช่น solid fuel firing ซึ่งสามารถเผาไหม้ขยะได้นะครับ - internal furnace “Scotch Boiler“ จะมีขนาดเล็กกว่าแบบ external การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงจะเกิดขึ้นที่เตาอิฐภายใน boiler ก๊าซร้อนจะไหลผ่านท่อเล็กๆย้อนไปย้อนมาภายในหม้อไอน้ำก่อนที่ออกไปสู่ stack โดยอาจจะออกแบบก๊าซร้อนไหลผ่านท่อเล็กๆย้อนไปย้อนมาภายในหม้อไอน้ำได้เป็น 2,3,4 เที่ยวก็มีนะครับ ขนาดของหม้อน้ำชนิดนี้ไม่สามารถทำขนาดใหญ่ได้เนื่องจากข้อจำกัดของขนาดและ ความหนาของเปลือกหม้อน้ำ โดยสามารถมีขนาดใหญ่ได้เต็มที่แค่ 35 ton/hr. at 25 barg ดังนั้นจึงไม่ได้นำไปผลิตกระแสไฟฟ้านะครับ แต่นิยมนำไปใช้งานอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น อบวัสดุต่างๆ ข้อดีของหม้อน้ำประเภทนี้ก็คือ 1. ภายในหม้อไอน้ำจะบรรจุน้ำจำนวนมาก ซึ่งสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงปริมาณการป้อนไอน้ำได้ดี ระดับน้ําในหม้อน้ำจึงค่อนข้างคงที่ 2. มีลักษณะเป็น compact design ทำให้น้ำหนักเบากว่าแบบ water tube 3. ส่วนใหญ่จะเป็น package unit ซึ่งจะประกอบด้วย fire tube boiler , boiler feed water pump, fans burners and controller ดังนั้นเราเพียงแค่เตรียมท่อเชื้อเพลิง ท่อน้ำ ไฟฟ้า ให้พร้อมสำหรับต่อกับหม้อไอน้ำตามตำแหน่งที่ระบุเท่านั้น 4 เนื่องจากเป็น package unit ดังที่กล่าวในข้อที่ 3 ดังนั้นผู้ผลิตจึงสามารถรับผิดชอบงานและคุณภาพของหม้อน้ำทั้งหมดของตนได้ ทั้งหมด 5 เนื่องจากในหม้อน้ำมีปริมาณน้ำมาก จะทําให้อันตรายเกิดจากการที่น้ำในหม้อน้ำแห้ง เป็นไปได้ยาก 6 การทําความสะอาดและบํารุงรักษาง่ายกว่าแบบ water tube ข้อเสียของหม้อน้ำประเภทนี้ก็คือ 1. ไม่สามารถผลิต superheat steam ได้ 2. ไม่สามารถผลิตไอน้ำความดันสูงได้ 3. การเริ่มต้นผลิตไอน้ำใช้เวลานาน เนื่องจากบรรจุน้ำในหม้อไอน้ำจำนวนมาก 4. ต้องทำความสะอาดบ่อย เนื่องจากมีเขม่าภายในท่อเยอะ 2. Water tube boiler ประเภทนี้ จะมีลักษณะที่ไฟและก๊าซร้อนจะวิ่งภายนอกท่อเล็กๆจำนวนมากที่เต็มไปด้วยน้ำ โดยจะเป็นการให้ความร้อนแก่น้ำที่วิ่งไหลวนอยู่ภายในท่อครับ หม้อไอน้ำประเภทนี้สามารถผลิตได้ทั้งไอน้ำอิ่มตัวและไอดง มีตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงขนากใหญ่ถึง 450 ton/hr. at pressure 130 barg ดังนั้นจึงสามารถนำไปผลิตกระแสไฟฟ้าได้ครับ หม้อไอน้ำประเภทนี้เป็นที่นิยมเพราะ ว่าปริมาณน้ำที่ไหลเวียนอยู่ในท่อมีปริมาณน้ำน้อยทําให้ผลิตไอน้ํได้รวดเร็ว เราสามารถแบ่ง Water tube boilers ออกได้เป็น 2 กลุ่มคือ Straight tube boilers และ Bent tube boilers ภายใน boiler จะมีภาชนะบรรจุน้ำํที่รับมาจาก Feed water เข้าทางด้านล่าง ความร้อนที่ได้จากการเผาเชื้อเพลิงจะต้มน้ําให้เดือดจนกลายเป็นไอน้ำ ที่พักน้ำด้านบนและด้านล่างจะมีลักษณะเป็นทรงกระบอก Drum ซึ่งจะทําหน้าที่แยกน้ำออกจากไอน้ําด้วยความดันและอุณหภูมิสูงส่งออกไปใช้ งาน อากาศเสียหรือควันที่เกิดจากการ combustion ก็จะลอยขึ้นสูงแล้วปล่อยออกทางปล่องไฟ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว boiler จะมีประสิทธิภาพไม่ถึง 100% ใน water tube boile จะออกแบบจัดท่อน้ำออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มท่อน้ำที่รับความร้อนจากก๊าซร้อน น้ำในท่อรับความร้อนจะมีอุณหภูมิสูงและเดือดกลายเป็นไอความหนาแน่นลดลงไอน้ำ จึงลอยขึ้นบนซึ่งเรียกว่าท่อ riser ไอน้ำและน้ำจะไหลขึ้นสู่ steam drum กลุ่มท่อน้ำอีกส่วนหนึ่งจะถูกจัดไม่ได้รับความร้อนเรียกว่าท่อ down comer น้ำที่ไหลขึ้นไปตามท่อ riser เมื่อขึ้นถึง steam drum ก็จะไหลกลับลงมายัง water drum ทางท่อ down comer ทําให้น้ำในหม้อน้ำมีการไหลเวียนขึ้น น้ำเลี้ยง (Feed water) ที่จะป้อนเข้าไปสู่ boiler จะต้องทําให้มีความบริสุทธิ์เสียก่อน เนื่องจากน้ำที่มาจากธรรมชาติ จะมีเกลือแร่หรือกรดที่อาจเจือปนอยู่ โดยตามธรรมชาติ น้ำจะประกอบไปด้วยเกลือแคลเซียม แมกนีเซียม โซเดียมและสิ่งเจือปนอื่นๆ ซึ่งสามารถทําให้เกิดตะกรัน คราบและกัดกร่อนท่อ ซึ่งจะเป็นสาเหตุให้ประสิทธิภาพของ boiler ลดลงและจะเกิดปํญหาในการบํารุงรักษา boiler ได้