การกําหนดระยะเวลาในการลางทอคอนเดนเซอรของเครื่องทํ านํ้ าเย็นอยางเหมาะสมดวยวิธีทางคณิตศาสตร

บทนํา

หลายทานที่เปนวิศวกรหรือชางซอมบํารุงอาจเคยมีความสงสัยวาเครื่องทํานํ้าเย็นชนิดระบายความรอนดวยนํ้ า (Water Cooled Water Chiller) ควรมีระยะเวลาที่เหมาะสมในการลางทํ าความสะอาดทอคอนเดนเซอรเปน

อย่างไร เพื่อยังคงใหประสิทธิภาพการระบายความรอนที่ผิวท่อนํ้าหล่อเย็นและสารทําความเย็นอยูในเกณฑที่

เหมาะสมตามที่ผูผลิตกําหนดและเกิดการประหยัดพลังงงานที่คอมเพรสเซอรไดมากที่สุด ทั้งนี้โดยสวนใหญแลว

เรามักจะใชคาตามมาตรฐานที่ทางผูรับเหมา ผูผลิต หรือที่ปรึกษาทางวิศวกรรมกําหนดไวให เชน ทุกๆ 3 เดือน, 6

เดือน หรือ 1 ป โดยขึ้นอยูกับคุณภาพของนํ้าหลอเย็นที่หมุนเวียนในระบบ, ชั่วโมงการทํางานของระบบ สภาพ

การใชงานของหอผึ่งนํ้า, คุณภาพของอากาศในบริเวณที่ติดตั้งหอผึ่งนํ้า และจากประสบการณของตัววิศวกรเอง

เป็นต้น ซึ่งจากทั้งหมดที่ไดกล่าวมานี้หากไมมีความแม่นยําพอและสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงขณะใชงาน

แล้ว อาจจะส่งผลใหเกิดความสิ้นเปลืองและคาใชจ่ายในการล้างโดยไมจํ าเป็น หรืออาจทําใหเกิดการอุดตันภายใน

ท่อคอนเดนเซอรและส่งผลต่อประสิทธิภาพและการใชพลังงานของเครื่องทํานํ้าเย็นก็ได ดังนั้นในบทนี้ผูเขียนจึง

ใคร ขอนําเสนอแนวทางอย่างง่ายที่ใช สําหรับเปนเกณฑในการกําหนดระยะเวลาที่เหมาะสมในการลางท่อ

คอนเดนเซอรของเครื่องทํานํ้าเย็นโดยผ่านแบบจําลองทางคณิตศาสตรอย่างง่ายตามรายละเอียดดังนี้

หลักการโดยปกติการที่เราจะทราบวาผิวทอคอนเดนเซอรของเครื่องทํานํ้าเย็นสกปรกหรือไมและควรลางทํา

ความสะอาดแล้วหรือยัง เรามักจะสังเกตไดจากตัวแปรต่างๆ อาทิเช่น

1. ความดันตกคร่อม (Pressure Drop) ในท่อนํ้าหล่อเย็นระหว่างทางด้านเข้า-ด้านออกว่ามีค่าสูงเกิน

กว่าค่าตามพิกัดที่ผู้ผลิตกําหนดหรือไมที่อัตราการไหลเท่ากัน โดยมักจะนํ าไปเปรียบเทียบกับ Coil

Performance Curve ของชุดคอนเดนเซอรที่ได้จากผู้ผลิต

2. ค่าความแตกต่างระหว่างอุ ณหภูมิ นํ้าหล่อเย็นด้านออกและอุณหภูมิอิ่มตัวของสารทําความเย็นด้าน

คอนเดนเซอรหรือด้านจ่าย (Approach Temperature) มีคาเกินกวา 5 F แลวหรือไม

3. กระแสไฟฟ้าหรือกํ าลังไฟฟ้าที่ใชของคอมเพรสเซอรมีค่าสูงกว่าค่าพิกัดมากเกินไปแล้วหรือไมที่

ความสามารถในการทําความเย็นเท่ากัน หรือเรียกอีกอย่างว่าการวิเคราะหหาสมรรถนะของเครื่อง

ทําความเย็น (kW/TR) นั่นเอง วิธีการนี้ ตองอาศัยการตรวจวัดจากวิศวกรด้วยเครื่องมือวัดโดยเฉพาะ

เทานั้น ซึ่งในทางปฏิ บัติแล้วทําไดยากเนื่องจากเครื่องมือวัดดังกล่าวมีราคาแพง และผูวัดต้องมี

ประสบการณพอสมควร

ในที่ นี้ตัวแปรที่ มีความซับซ้อนน้อยที่สุด แต่มีความถูกต้องแม่นยํา และน่าเชื่อถือมากที่สุดคือตัวแปรใน

ขอ 2. เนื่องจากเราสามารถอานคาและจดบันทึกไดโดยตรงจากหน้าจอแสดงผลแบบดิจิตอลของเครื่องทํานํ้าเย็น

และมักจะมีการจดค่าต่างๆเหล่านี้ลงใน Log Sheet เป็นประจําอยู่แล้ว จึงจัดเป็นข้อมูลที่มีความต่อเนื่องในการใช

ประเมินผลและสรางแบบจํ